การเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต

Rate this item
(2 votes)

1.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ในเวลานอนปกติของตนเอง ในคืนก่อนวันที่จะมาบริจาคโลหิต

2.สุขภาพสมบูรณ์ทุกประการ ไม่เป็นไข้หวัด หรืออยู่ระหว่างรับประทานยาปฏิชีวนะใดๆ เช่น ยาแก้อักเสบ ต้องหยุดยาแล้วอย่างน้อย 7 วัน

3.ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ภายใน 6 ชั่วโมง ก่อนมาบริจาคโลหิต

4.การดื่มน้ำก่อนบริจาคโลหิต 30 นาที ประมาณ 3-4 แก้ว ซึ่งเท่าปริมาณโลหิตที่เสียไปในการบริจาคจะทำให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น และช่วยลดภาวะการเป็นลมจากการบริจาคโลหิตได้

5.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนมาบริจาคโลหิตอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

6.งดสูบหรี่ก่อนและหลังบริจาคโลหิต 1 ชั่วโมง

ขณะบริจาคโลหิต

1.สวมเสื้อผ้าที่แขนเสื้อไม่คับเกิดไป สามารถดึงขึ้นเหนือข้อศอกได้อย่างน้อย 3 นิ้ว

2.เลือกแขนข้างที่เส้นโลหิตดำชัดเจน ผิวหนังบริเวณที่จะให้เจาะ ไม่มีผื่นคัน หรือรอยเขียวช้ำ ถ้าแพ้ยาทาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้า

3.ไม่ควรเคี้ยวหมากฝรั่ง หรืออมลูกอมขณะบริจาคโลหิต

4.ขณะบริจาคโลหิตควรบีบลูกยางอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้โลหิตไหลเวียนได้สะดวก หากมีอาการผิดปกติ เช่น ใจสั่น วิงเวียน คล้ายจะเป็นลม อาการชา อาการเจ็บที่ผิดปกติ ต้องรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบทันที

5.หลังบริจาคโลหิตเสร็จเรียบร้อยแล้วนอนพักบนเตียง 5-10 นาที ก่อนลุกจากเตียง แล้วจึงลุกไปดื่มน้ำและรับประทานอาหารว่างที่จัดไว้รับรอง

หลังบริจาคโลหิต

1.พักรับประทานอาหารว่างและเครื่องดื่มที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้บริการ และนั่งพักอย่างน้อย 15 นาที ให้ดื่มน้ำมากกว่าปกติ เป็นเวลา 1 วัน

2.ไม่ควรรีบกลับ ควรนั่งพักจนแน่ใจว่าเป็นปกติ หากมีอาการเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม หรือรู้สึกผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบทันที

3.หลีกเลี่ยงการขึ้นลงลิฟท์ บันไดเลื่อน อาจทำให้รู้สึกวิงเวียนและเป็นลมได้

4.ถ้ามีโลหิตซึมออกมาจากรอยสำลีปิดแผล ให้ใช้นิ้วอีกด้านกดลงบนสำลี กดให้แน่นและยกแขนสูงไว้ประมาณ 3-5 นาที หากยังไม่หยุดซึมให้กลับมายังสถานที่บริจาคโลหิตเพื่อพบแพทย์หรือพยาบาล